การศัลยกรรมเพื่อแก้ไขปัญหารูปร่าง หน้าท้องที่หย่อนคล้อย ให้ดูกระชับเป็นสัดเป็นส่วนที่ดูดีนั้นสามารถทำได้ในปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมความงามที่คิดค้นขึ้นมามากมายอย่างการผ่าตัดกระชับหน้าท้อง (Abdominoplasty) คือการที่นำไขมันและผิวหนังส่วนเกินที่ออกเพื่อแก้ไขรูปร่าง จากนั้นเพิ่มความกระชับให้แก่ชั้นเนื้อเยื่อข้างใต้ซึ่งทำหน้าที่ยึดไขมันและผิวหนัง เพื่อช่วยแก้ไขความผิดปกติที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ทีนี้เรามาดูรายละเอียดกันว่าการศัลยกรรมด้วยวิธีนี้เป็นอย่างไร
เนื้อหา
- หลักการลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- ขั้นตอนการผ่าตัดลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- วิธีเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- ความเสี่ยงจากการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- คำถามที่พบบ่อย
หลักการลดไขมันด้วย Abdominoplasty
เป็นการผ่าตัดกำจัดไขมัน ผิวหนังส่วนเกิน แก้ไขหน้าท้องที่หย่อนยาน ที่เกิดขึ้นหลังจากการตั้งครรภ์หรือการลดน้ำหนัก ซึ่งการผ่าตัดจะทำให้หน้าท้องดูเรียบ กระชับขึ้นและยังกำจัดผิวหนังที่แตกลายได้อีกด้วย
ขั้นตอนการผ่าตัดลดไขมันด้วย Abdominoplasty
- ตรวจร่างกายเพื่อประเมินเบื้องต้นว่ามีความเสี่ยงหรือไม่
- แพทย์จะทำการวางยาสลบก่อนการผ่าตัด
- ผ่าตัดนำไขมัน ผิวหนังส่วนเกินออก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
ข้อดี
- ช่วยแก้ไขความผิดปกติของหน้าท้องที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ความอ้วนฯลฯ
- ช่วยแก้ไขความผิดปกติของโครงสร้างหน้าท้อง
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ช่วยให้หน้าท้องมีรูปลักษณ์เป็นปกติ ได้สัดส่วนมากขึ้น
- ช่วยแก้ไขไส้เลื่อนบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่าตัดหน้าท้อง
- ช่วยกำจัดก้อนไขมัน “แพนนัส (Pannus)” ที่มีขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดความรำคาญ และสามารถทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังได้
ข้อเสีย
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมายตามมา
- ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ต้องทำการตรวจสุขภาพก่อนว่าเหมาะหรือไม่
วิธีเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
วิธีเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด คือต้องเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรงที่สุดเพื่อช่วยให้ฟื้นตัวไว เพิ่มน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ปรึกษาศัลยแพทย์เกี่ยวกับยาประจำตัว เพราะอาจต้องหยุดยาบางชนิด งดการสูบบุหรี่หยุดกินยาบางตัวที่มีส่วนผสมของแอสไพริน นอกจากนี้จะต้องหยุดกินสารที่เป็นธรรมชาติบำบัด เช่น กระเทียม แปะก๊วย โสม เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดและอาการชา เตรียมบริเวณสำหรับพักฟื้นภายในบ้านไว้ และเตรียมการให้ญาติหรือเพื่อนมาขับรถไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับโรงพยาบาล ควรจะมีคนอยู่ด้วยตลอด หลังจากที่กลับบ้านเพื่อที่จะได้มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด
หลังจากการผ่าตัดให้ใส่ส่ชุดรัดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการบวมและค้ำจุนหน้าท้องจนกว่าจะหายดี ไม่ควรทำงานหนักหรือยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักๆ ประมาณหกสัปดาห์ สวมผ้ารัดหน้าท้องเป็นเวลา 1-2 เดือน
ความเสี่ยงจากการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
มีภาวะแทรกซ้อนได้อย่าง มีเลือดคั่ง แผลผ่าตัดติดเชื้อ แผลแยกและเป็นแผลเป็น แต่ส่วนใหญ่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ไม่ค่อยเป็นอันตราย สามารถแก้ไขได้โดยการรักษาแผลหรือการผ่าตัดเล็กเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการผ่าตัด ลดไขมันด้วย Abdominoplasty
80,000-100,000 บาท
คำถามที่พบบ่อย
- จะเป็นแผลเป็นหลังการผ่าตัดหรือไม่
การผ่าตัดล้วนมีแผลเป็น แต่แพทย์จะเย็บปิดแผลให้มีขนาดเล็กที่สุดและผ่าตัดบริเวณที่ซ่อนง่ายทำให้ไม่เห็นแผล
- ต้องพักฟื้นกี่วัน
นอนโรงพยาบาลประมาณ 2 คืน จากนั้นใช้เวลาพักฟื้นที่บ้าน 1-2 อาทิตย์ จึงจะสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
- ใครที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดชนิดนี้
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดคือผู้ที่ไม่สามารถรับยาชาหรือยาสลบได้ มีแนวโน้มเลือดออกมากและผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์
- ยาที่ใช้ระหว่างการผ่าตัดคืออะไร
ยาที่ใช้จะเป็นยาสลบเพื่อระงับความเจ็บปวดทางร่างกาย หรือยาชา แต่การใช้ยาชาจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการผ่าตัดให้ดี
- อายุเท่าไหร่จึงจะสามารถผ่าตัดได้
อายุ 20 ปีขึ้นไป
การผ่าตัดยกกระชับหน้าท้องไม่ใช่การลดน้ำหนัก ไม่สามารถใช้เป็นวิธีในการลดน้ำหนักหรือแทนการออกกำลังกายได้ เป็นเพียงการช่วยเพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นๆกระชับขึ้น แม้ว่าผลลัพธ์การผ่าตัดจะได้ผลที่ถาวรแต่ถ้าน้ำหนักมีการผันผวน เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เสื่อมสภาพได้เช่นกัน ดังนั้นควรจะต้องออกกำลังกายหรือดูแลสุขภาพตัวเองควบคู่กันไปด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีและได้ผลลัพธ์ที่ถาวร
อ้างอิง
honestdocs
pai