ปัญหาผิวพรรณที่บางทีก็หลีกเลี่ยงกันไม่ได้เลยนั่นคือ รอยสิว รอยแผลเป็นจากสิว ที่ยากเกินจะแก้ไขให้หายไปโดยธรรมชาติ ทำให้สูญเสียความมั่นใจไปอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยเทคนิคในปัจจุบันที่เรียกว่า Microdermabrasion System เป็นการรักษาที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป เผยผิวใหม่ให้ผิวมีความยืดหยุ่นดียิ่งขึ้น แก้ปัญหาริ้วรอยของผิว รอยแผลเป็นต่างๆ ให้หายไป การมีผิวที่สวยใสจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปถ้าได้รู้จักนวัตกรรมนี้
เนื้อหา
- หลักการทำงานของการรักษาด้วย Microdermabrasion
- ขั้นตอนการทำ Microdermabrasion เพื่อให้ผิวเรียบเนียน
- ข้อดีและข้อเสียของการรักษาด้วย Microdermabrasion
- การเตรียมตัวก่อน-หลังทำ Microdermabrasion เพื่อผิวที่เรียบเนียน
- ความเสี่ยงจากการรักษาผิวด้วย Microdermabrasion
- ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของการรักษา Microdermabrasion
- คำถามที่พบบ่อย
หลักการทำงานของการรักษาด้วย Microdermabrasion
เทคนิคความงามประเภทนี้ จะมีหลักการทำงานโดยใช้วิธีการขัดผิว กรอผิวด้วยผลึกคริสตัลขนาดเล็กในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปจากผิวหนังกำพร้าชั้นนอกเผยเซลล์ผิวใหม่ออกมาทำให้ผิวดูดซับความชุ่มชื้น และสารบำรุงต่างๆได้ดียิ่งขึ้นช่วยให้คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังแท้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์และริ้วรอยดูลดเลือน ปัญหาสิว รอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิวก็จะดูตื้นขึ้นอีกด้วยอีกทั้ง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็จะทำงานได้ดี ซึมซาบลงสู่ผิวได้ลึกยิ่งขึ้นเพราะเซลล์ผิวเก่าได้ถูกกำจัดออกไป
ขั้นตอนการทำ Microdermabrasion เพื่อให้ผิวเรียบเนียน
- ล้างหน้าให้สะอาด ลบเครื่องสำอางออกให้หมดเพื่อตรวจสภาพผิวหน้า
- ทายาบริเวณที่ต้องการกรอเพื่อเตรียมผิว
- พ่นผงคริสตัลบริเวณที่เป็นแผล 15-30 นาที
- ทายาซ้ำอีกเพื่อกระตุ้นให้สร้างเซลล์ผิวใหม่
ข้อดีและข้อเสียของการรักษาด้วย Microdermabrasion
ข้อดี
- วิธีการรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่อันตราย
- ช่วยในการรักษาสิว ลดสิวอุดตัน รอยดำจากฝ้าและแผลต่างๆ
- ผิวเรียบเนียน และลดริ้วรอยบนใบหน้า
- แทบไม่เกิดผลข้างเคียงเลย
- ไม่เกิดรอยแผลจากการทำ
ข้อเสีย
- หลังทำอาจเกิดรอยแดงชั่วคราว
- ไม่สามารถรักษารอยแผลเป็นที่ลึกเกินกว่าผิวชั้นนอกได้
การเตรียมตัวก่อน-หลังทำ Microdermabrasion เพื่อผิวที่เรียบเนียน
การเตรียมตัวมากรอผิวจะต้องงดการแต่งหน้า หรือหากแต่งหน้ามาจะต้องลบเครื่องสำอางออกให้หมดเพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและประสิทธิภาพในการรักษา
การดูแลหลังการกรอผิวจะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดประมาณ 2-3 วัน และทาครีมกันแดดป้องกันผิวแต่ทางที่ดีคือไม่ควรให้ผิวหน้าไปตากแดดเลยจะดีกว่า หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง และหากจะให้ยาที่มีกรดจำพวกAHAหรือใช้เครื่องสำอางที่มีสารจำพวกเรตินอล ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจก่อนดีที่สุด
ความเสี่ยงจากการรักษาผิวด้วย Microdermabrasion
หลังทำการรักษาผิวหนังอาจจะเกิดการแดง แต่จะดีขึ้นภายใน 1 วัน และอาจจะเกิดสะเก็ดขึ้นหลังทำเพียงเล็กน้อย และเกิดการลอกของผิวหนังเพราะเป็นการผลัดเซลล์ผิว
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของการรักษา Microdermabrasion
1,000-2,000 บาทต่อครั้ง โดยควรรักษาประมาณ 8-10 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน
คำถามที่พบบ่อย
- ต้องรักษากี่ครั้งถึงจะหาย
การรักษาจะต้องทำ 8-10 ครั้ง จึงจะเห็นผลเต็มที่ โดยการทำแต่งละครั้งควรทำห่างกัน 7-10 วัน
- หลังการกรอผิวหน้าจะเกิดสะเก็ดผิวหรือไม่
หลังการรักษาอาจเกิดสะเก็ดขึ้นเพียงเล็กน้อยและมีรอยแดง ซึ่งจะหายภายใน 24 ชั่วโมง
- ใช้ระยะเวลานานเท่าใดในการรักษา
การกรอแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลาทั้งหมด 45-60 นาที
- เห็นผลได้จริงไหม
การกรอผิวจะเห็นผลได้ชัดเจนถ้าทำอย่างต่อเนื่อง และจะใช้ไม่ได้ผลกับรอยแผลที่ลึกมากเพราะเทคนิคนี้สามารถผลัดได้แค่เซลล์ผิวชั้นนอกเท่านั้น หากรอยแผลลึกจะต้องใช้การรรักษาด้วยวิธีอื่น
- สามารถช่วยในเรื่องใดได้บ้าง
ช่วยลดรอยดำ หลุมสิวดูตื้นขึ้น สิวอุดตันก็จะหลุดได้ง่ายขึ้น แผลเป็นต่างๆราบเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิมและสามารถลดผิวแตกลายตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ด้วย
ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน หน้าหมองคล้ำคงเป็นปัญหาใหญ่ที่กวนใจหลายๆคนเพราะทำให้เสียความมั่นใจในหลายๆอย่างไปเลย แต่ด้วยนวัตกรรมความงามที่ได้พัฒนาไปมากทำให้มีวิธีที่รักษาปัญหาผิวของเราให้หายแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นก็ตามแต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลือกรักษาด้วยวิธีใดก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเพื่อความปลอดภัยและความสวยดั่งที่ใจต้องการ
อ้างอิง
yanhee