ปรับรูปหน้าเรียว ยกกระชับหน้า

หากเราอยากจะย้อนวันและเวลาให้กับใบหน้าของเรานั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว ด้วยยุคสมัยที่ผ่านไปและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย ตัวอย่างเช่นการฉีดฟิลเลอร์ ที่เป็นเทคโนโลยีการเสรมความงามทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นวิธีการลดริ้วรอยที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก คนส่วนใหญ่จึงหันมาสนใจการฉีดฟิลเลอร์กันมากขึ้น เรื่องความสวยความงามย่อมเป็นอะไรที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน และยิ่งหากวันหนึ่งเกิดมีปัญหาริ้วรอยก่อนวัยที่หน้าผาก มุมปาก ร่องแก้ม รอบดวงตามากวนใจให้ใครต่อใครบอกว่ารอยตีนกาถามหาแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้คุณรำคาญใจจนต้องไปประโคมครีมลดริ้วรอยกันยกใหญ่ แถมยังต้องเจอกับปัญหาราคาครีมบำรุงผิวแพงหูฉี่ ใช้กี่เดือนก็ไม่เห็นผลสักที ก็ได้เวลามาใช้ทางลัดเพิ่มความสวยด้วยฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ที่เรารู้จักกันอย่างแพร่หลายในตลาดความงามบ้านเรา มักจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ที่ก้าวเข้าสู่วัยเริ่มมีริ้วรอยไปจนถึงวัยที่เห็นริ้วรอยได้ชัดแม้จะไม่ได้มีการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าใดๆ เลย ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะอยู่ในช่วงวัย 35 ปีขึ้นไปก็จะเริ่มเจอกับปัญหาเหล่านี้ และเชื่อว่าวิธีแรกที่คุณสาวๆ ใช้ในการลบเลือนริ้วรอยนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยในการลดริ้วรอยให้ค่อยๆ จางลงไป แต่เชื่อเถอะว่ากว่าจะได้ผลอาจจะไม่ทันใจคุณๆ...

การทำศัลยกรรมในสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเราก็สามารถมีใบหน้าที่สวยงามตรงตามความต้องการของเราได้เหมือนกัน หากใครอยากมีใบหน้าที่ดูอ่อนวัยและเรียวกระชับ เราก็สามารถทำการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ร่วมกันเพื่อปรับโครงหน้าของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าการฉีดสองสิ่งนี้จึงมอบความเยาวว์วัยให้กับเราด้วย แต่หลายคนคงอาจจะยังไม่รู้จักโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ดี เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าโบท็อกซ์และฟิลเลอร์กันว่ามันคือสารอะไร และมันช่วยอะไรเราได้บ้าง ใครที่อยากรู้แล้วก็ตามเรามาได้เลย สารตัวแรกที่เราจะแนะนำก็คือ ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มที่มีอยู่ 2 ชนิด คือชนิดฟิลเลอร์แบบถาวร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อพาราฟิน และอีกชนิดคือแบบไม่ถาวร หรือไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) ซึ่งเป็นสารคงความชุ่มชื้นของผิวในร่างกายตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ใช้ฉีดเข้าไป เพื่อเติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้นมา แต่จะใช้เติมเต็มรอยที่เราเห็นถึงแม้จะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า อย่างเช่น...

เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกับการโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงนั้นโบท็อกซ์ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้หรือยังไม่เข้าใจอยู่แน่นอน วันนี้เราจึงนำสาระความรู้เกี่ยวกับเจ้าโบท็อกซ์มาฝากทุกคนกัน โดยจะมีอะไรมานำเสนอบ้างนั้นต้องตามมาดูกันเลย โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าของโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิดเอ เป็นสารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ตอนแรกเค้าถูกนำมาใช้เพื่อรักษาอาการตาเหล่ ตาเข และตากระตุก และรักษาอาการอื่นๆทางการแพทย์ แต่นายแพทย์ชาวอเมริกันหลังได้ใช้โบท็อกซ์ฉีดรักษาอาการคนไข้ ก็พบว่ารอยย่น รอยตีนกาของคนไข้ดูจางลง ต่อมานายแพทย์คนที่ว่าจึงมีการพัฒนามาสำหรับประยุกต์ใช้ในการเสริมความงาม ที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว พอกล้ามเนื้อจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่องลึกจะเริ่มคลายตัว และเมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อจะเล็กลง ทำให้ผิวบริเวณนั้นเรียบตึงขึ้นนั่นเอง ตอนปกติร่างกายของเราจะมีปลายประสาทสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัวผ่านทางสารแอซิติลโคลีน ทำให้เกิดรอยตีนกา รอยร่องแก้มเวลายิ้ม หรือริ้วรอยอื่นๆ...

ไม่ว่าใครก็อยากมีใบหน้าที่ดูเด็ก อ่อนวัย และเต่งตึงกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะสาวๆหรือคุณผู้หญิงที่เริ่มมีริ้วรอย รอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นล้วนแต่เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับเราอยู่แล้ว ยิ่งคนที่มีร่องแก้มลึกกยิ่งทำให้ดูหน้าแก่ได้เลย ดังนั้นการศัลยกรรมเสริมความงามจึงเข้ามาเป็นตัวช่วยในการช่วยเหลือสาวๆที่อยากมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และกระชับเต่งตึงนั่นเอง การที่ผู้หญิงอย่างเรามีร่องแก้มลึก เป็นจุดที่บ่งบอกถึงอายุของเราได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว มักจะลึกมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในผู้หญิงถ้ามีร่องแก้มลึกก็จะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย การแก้ไขที่ตรงจุด สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มชนิดที่ปลอดภัยและผ่าน อย. คือคอลลาเจนชนิดไฮยาลูรอนิก(Hyaluronic acid) จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด สลายหมดไม่มีสารตกค้างถ้าชอบก็สามารถเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มใหม่ได้เรื่อยๆ ถ้าไม่เติมเต็มก็แค่คืนสภาพเดิมแต่ก็ยังดีกว่าก่อนเติมเพราะฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนที่ร่องแก้มของตัวเองขึ้นมาด้วย ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ดูเป็นธรรมชาตินั้น หมอที่มีความชำนาญต้องประเมินสาเหตุของการเกิดร่องแก้มในแต่ละคน เพื่อการแก้ไขร่องแก้มลึกได้ตรงจุด...

ผู้หญิงหลายคนที่เริ่มก้าวเข้าช่วงอายุเลข 3 แล้วก็ต้องต่างกันพากังวลเรื่องริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นแล้วแน่นอนว่าต้องเกิดความกังวลขึ้นแน่ๆ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางออกในการช่วยให้ผู้หญิงหลายคนมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสดใส เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นวิธีที่สะดวกและไม่ยุ่งยาก แถมยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการฉีดฟิลเลอร์จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การมีร่องแก้มลึก เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงอายุผู้หญิงได้อย่างชัดเจน มักจะลึกมากขึ้นเรื่อยๆเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในผู้หญิงถ้ามีร่องแก้มลึกก็จะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย การแก้ไขที่ตรงจุด สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มชนิดที่ปลอดภัยและผ่าน อย. คือคอลลาเจนชนิดไฮยาลูรอนิก จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด สลายหมดไม่มีสารตกค้างถ้าชอบก็สามารถเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มใหม่ได้เรื่อยๆ ถ้าไม่เติมก็แค่คืนสภาพเดิมแต่ก็ยังดีกว่าก่อนเติมเพราะฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนที่ร่องแก้มของตัวเองขึ้นมาด้วย ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ดูเป็นธรรมชาตินั้น หมอที่มีความชำนาญต้องประเมินสาเหตุของการเกิดร่องแก้มในแต่ละคน เพื่อการแก้ไขร่องแก้มลึกได้ตรงจุด...

ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้วเช่นเดียวกันกับการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ที่เป็นการเสริมความงามทางการแพทย์ที่มีวิธีการปฏิบัติที่ง่ายและสะดวก การฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์จึงเป็นที่นิยมมากในวงการการศัลยกรรม และแน่นอนว่าโอกาสของการเกิดผลข้างเคียงนั้นย่อมเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเรารู้ว่าผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าเราต้องสามารถเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ในการฉีดฟิลเลอร์นั้น ตัวสารจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวที่มีอยู่เดิม จึงอาจทำให้เกิดการเสื่อมสลายไปบ้างและหลังการฉีดฟิลเลอร์ อาจจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น เกิดผื่นแดง จุดแดง หรือจ้ำเลือดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จากรอยเข็มที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง หรือเกิดรอยนูนเมื่อฉีดปริมาณมากเกินไป หรือฉีดตำแหน่งที่ตื้นเกินไป หรือปัญหาการไหลย้ายของฟิลเลอร์ และถ้าฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป อาจทำให้เนื้อเยื่ออักเสบและติดเชื้อได้ ในบางรายอาจส่งผลร้ายแรงเป็นอย่างมาก จนอาจถึงขั้นทำให้เส้นเลือดตีบและเสียชีวิตได้อีกด้วย สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้น หลังการฉีดโบท็อกซ์ซ์อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ เช่น หนังตาบนตก...

หลายคนหรือบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าโบท็อกซ์หรือสารที่ใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้านั้นมีประโยชน์อื่นๆนอกจากการลดริ้วรอยอีกด้วย และประโยชน์ที่ว่านี้ก็ไม่ได้น้อยๆเลย แทบจะเรียกได้เลยว่าสารโบท็อกซ์นั้นมีสารพัดประโยชน์เลยก็ว่าได้ โดยสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เป็นโปรตีนสกัดบริสุทธิ์ มีประสิทธิภาพทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อคลายตัวลง เดิมทีแพทย์ใช้โบท็อกซ์รักษาผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็ง ตาเข ตาเหล่ อาการปวดศีรษะไมเกรน และภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบ ต่อมาได้พัฒนามาใช้ในด้านความสวยความงามกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอีกด้วย นอกจากโบท็อกซ์จะช่วยปรับแต่งแก้ไขริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก ตีนกา รอยย่นหว่างคิ้ว รอยย่นดั้งจมูก ร่องน้ำหมาก รอยย่นบริเวณลำคอ...

ใครที่อยากมีใบหน้าที่ดูเรียวสวยเป็นรูปตัววีและมีโครงหน้าที่มีความสมบูรณ์เพอร์เฟ็คนั้น อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับสาวๆหลายคน แต่ไม่ใช่ในยุคสมัยนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าการศัลยกรรมเสริมความงามนั้นได้พัฒนามาไกลมากแล้ว จึงทำให้มีวิธีการทำศัลยกรรมมากมายมาให้เราได้รู้จักและเลือกใช้บริการกันนั่นเอง แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะช่วยปรับโครงหน้าให้เราได้แล้ว แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาใบหน้าหนักเกินที่จะใช้โบท็อกซ์รักษาได้ ในบางครั้งคุณหมอผู้เชี่ยวชาญจึงอาจจะแนะนำวิธีการอย่างการร้อยไหมและการฉีดฟิลเลอร์เป็นการรักษาประกอบคู่กับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษานั้นออกมาดีที่สุดนั่นเอง สำหรับการร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวที่ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย เพียงแต่นิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่า ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก โดยใช้ไหมละลายจำนวนหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวและมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมากขึ้นนั่นเอง และการฉีดฟิลเลอร์ก็คือการฉีดสารเติมเต็มความสวยในแบบที่คุณต้องการนั่นเอง ซึ่งสารที่ว่านี้ก็คือสารไฮยารูโรนิก แอซิด ( Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ แน่นอนว่าต้องมีความปลอดภัยสูง...

เดี๋ยวนี้การจะทำอะไรก็ง่ายไปหมด เช่นเดียวกันกับการเสริมความงาม นอกจากการฉีดโบท็อกซ์แล้วในวงการเสริมความงามยังมีการฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่ต่างกันกับโบท็อกซ์ไปมากเท่าไหร่อีกด้วย จะเห็นได้ว่าหลายคนมักฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากันเพื่อกำจัดถุงใต้ตาให้หายไป เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นสะดวกและมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมอีกด้วย พฤติกรรมและการใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคสมัยนี้นั้นล้วนส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของเรา ทั้งการเลือกทานอาหาร การทำงานหนักๆ การอดหลับอดนอน ความเครียดที่สะสม และพฤติกรรมอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ดีต่อร่างกาย หากสังเกตดีๆเราจะเห็นได้ว่าคนหลายคนมักจะมีถุงใต้ตาหรือใต้ตาคล้ำเป็นส่วนใหญ่ เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้เรามีพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้ จึงแปลกใจเลยว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมีถุงใต้ตาและใต้ตาคล้ำกันนั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นเราก็ควรจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน ซึ่งวิธีการเตรียมตัวก็มี ดังนี้ สตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สุขภาพเข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้กินยาประจำ หรือถ้ากินก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน ห้ามโกหกว่าไม่มีโรคประจำตัวเด็ดขาด ถ้ากินยาประจำต้องเอายาไปให้คุณหมอดูด้วย เพื่อความปลอดภัยของเราเอง...

ทั้งอายุและพฤติกรรมที่ไม่ดีต่างๆที่เราทำล้วนส่งผลทำให้เกิดถุงใต้ตาขึ้นได้ทั้งนั้น ส่วนพฤติกรรมไม่ดีที่ว่าก็ได้แก่ การนอนดึก มีความเครียด ทำงานหนัก เป็นต้น หลายคนคงลองวิธีต่างๆมากมายที่คิดว่าจะทำให้ถุงใต้ตาหายไปได้ก็ไม่สำเร็จ ส่วนวิธีที่ได้ผลจริงๆและทันทีนั้นก็คงหนีไม่พ้นการทำศัลยกรรม แต่การศัลยกรรมอาจจะดูน่ากลัวไปสำหรับบางคน หลายคนจึงเลือกการฉีดโบท็อกซ์ที่เป็นตัวช่วยในการเสริมความงามแทน เพราะการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตานั้นหลายคนอาจกังวลว่าจะเป็นอันตรายไหม เพราะบริเวณรอบดวงตาถือว่าเป็นบริเวณบอบบางที่สุดที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ และการฉีดโบท็อกซ์ ใต้ตา เราจำเป็นต้องลืมตาตลอดเวลา การฉีดโบท็อกซ์ทีอื่นเรายังพอหลับตาได้ แต่ฉีดโบใต้ตานี้ต้องลืมตาอย่างเดียวนะคะ จึงทำให้นอกจากคุณหมอจะต้องระวังแล้ว คนถูกฉีดอย่างเราก็ต้องระวังไม่กระพริบตาด้วย แถมต้องทำใจให้แข็งอีกด้วย เพราะเราจะมองเห็นเข็มจิ้มเข้าใต้ตาเราอยู่ตลอดเวลา ใครกลัวเข็มนี่ถือว่าเป็นอุปสรรคใหญ่เลย ส่วนการฉีดของหมอ ศัลยแพทย์จะประคบเย็นบริเวณใต้ตาก่อนฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง ประคบเย็นไปสลับกับฉีดไป คุณหมอจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ...