httpswww xn 12cfbm0gb8cdbbcmez1aie9b0kc5abd0isi1l com - search results

เมื่อคนเราเริ่มมีอคติต่อการทำศัลยกรรมน้อยลง เปิดใจยอมรับการทำศัลยกรรมกันมากขึ้น มองข้ามความสวยแบบพลาสติกไปได้ เราก็จะมองการทำศัลยกรรมเป็นแค่การเสริมความงามเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังมีคนที่ยังกลัวการทำศัลยกรรมอยู่เหมือนกัน โดยอาจจะกลัวการผ่าตัดหรืออันตรายจากการทำศัลยกรรมก็ได้เหมือนกัน เพื่อให้การเสริมความงามรองรับคนหลายกลุ่ม จึงมีการพัฒนาวิธีการและเทคนิคใหม่ๆขึ้นมาเพื่อให้คนที่กลัวการทำศัลยกรรมสามารถเสริมความงามได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งวิธีการผ่าตัด แต่จะเป็นการฉีดและการใช้คลื่นพัลงต่างๆในการเสริมความงามแทน บริการเสริมความงาม สำหรับ ใบหน้า >>> คลิ๊กที่นี่ บริการเสริมความงาม สำหรับ รูปร่าง >>> คลิ๊กที่นี่   เนื้อหา ปรับรูปหน้า V-shape ลดกราม หน้าเรียว ลดเหนียง โบท็อกซ์ botox/ ฟิลเลอร์ filler ลดริ้วรอย เติมเต็ม หน้าเด็ก ยกกระชับหน้า ด้วยเทอร์มาจ Thermage/ อัลเทอร่า Ulthera/ ไฮฟู HIFU เลเซอร์หน้าใส และทรีทเม้นท์บำรุงผิวหน้า ลดไขมัน กำจัดไขมัน กระชับสัดส่วน ขจัดเซลลูไลท์ แนะนำหมอเก่งที่สุด และคลินิกเสริมความงาม บางนา ปรับรูปหน้า V-shape ลดกราม หน้าเรียว ลดเหนียง โดยการฉีดโบท็อกซ์ถือว่าเป็นวิธีการเสริมความงามที่ไม่ใช่การผ่าตัดที่ได้รับความนิยมเยอะมากๆ...

ปัญหากวนใจอีกอย่างสำหรับสาวๆ คือการมีไขมันเป็นอุปสรรคต่อการมีหุ่นที่ดีแถมยังตามมาด้วยปัญหาโรคภัยหลายอย่าง ลดอย่างไรก็ไม่สำเร็จสักที ยากจนถอดใจไปหาอะไรกินดีกว่า แล้วก็วนลูปไม่มีหุ่นที่ดีสักที วันนี้เราจะพาไปดูวิธีลดไขมันอย่างปลอดภัยและถูกวิธี รับรองว่ามีหุ่นดีอย่างที่ต้องการแน่นอน ไขมันในร่างกายหากมีมากเกินไป จะทำให้ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆในร่างกายทั้งด้านสุขภาพหลายอย่าง และลดความมั่นใจอีกด้วยถ้ามีหุ่นที่อ้วนเกินไป ซึ่งวิธีลดไขมันให้ปลอดภัยได้ผลมีดังนี้ 1.ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เดินเร็วในระดับที่เหงื่อออกและอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่าปกติ เพื่อลดการเกิดไขมันในช่องท้อง และเพิ่มระดับความหนักในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอให้มากขึ้น โดยอาจเพิ่มจำนวนวันหรือเวลาในการออกกำลังกายไปเรื่อยๆ 2.ออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อ การออกกำลังกายแบบนี้สามารถช่วยลดไขมันได้จริง ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมง ฝึกออกกำลังกายในท่าต่างๆ จะสามารถช่วยกระชับสัดส่วนต่างๆได้ และให้ดีสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญในการเทรนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและได้ผลชัวร์ 3.ควบคุมอาหาร นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ก็ควรควบคุมอาหารให้ถูกวิธี ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องควรจำกัดการบริโภคไขมันและอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยรักษาระดับไขมันที่ได้จากพลังงานทั้งหมดให้อยู่ที่ร้อยละ 20-30 รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวให้น้อยกว่าร้อยละ 7 แค่นี้เราก็จะมีหุ่นเฟิร์มกระชับ ไร้ไขมันได้แล้ว 4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อออกกำลังกายอย่างถูกวิธีแล้ว การพักผ่อนถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่ร่างกายจะได้ฟื้นฟูระบบเผาผลาญต่างๆให้ทำงานได้ดีขึ้น เมื่อรู้จักวิธีที่ถูกต้องในการลดไขมันแล้ว อย่าลืมที่จะมีวินัยในตัวเองในการปฏิบัติตนด้วย หากทำเป็นประจำ สม่ำเสมอจนเป็นนิสัยแล้วแน่นอนว่าการมีหุ่นที่ดี เฟิร์ม กระชับ อยู่อีกไม่ไกล อีกทั้งยังได้สุขภาพที่ดีตามมาอีกด้วย แต่นอกเหนือจากวิธีข้างต้นแล้วก็ยังมีนวัตกรรมทางความงามที่เข้ามาช่วยเหลือและได้ผลดีอย่างปลอดภัย เห็นผลรวดเร็วได้ง่ายๆ เพียงแค่เดินเข้าคลินิกก็สามารถมีหุ่นสวย เฟิร์ม กระชับได้อย่างที่ใจต้องการ เพียงแค่ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน...

การจะลดไขมัน เพื่อหุ่นสวยเฟิร์มนั้นปัจจัยหลักนั่นก็คือพฤติกรรมการกิน หากรับประทานแต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ กินจุกจิกแบบตามใจปากก็ยากที่จะมีหุ่นสวยได้อย่างที่ฝัน เพราะอาหารการกินส่งผลต่อร่างกาย วันนี้จะมาแนะนำเมนูอาหารที่เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนัก ไร้ไขมันแต่อร่อยและหุ่นสวยแน่นอน 1.สุกี้น้ำ เมนูที่เต็มไปด้วยคุณค่าโภชนาการ อิ่มนานอยู่ท้อง สารอาหารครบถ้วน ไร้ไขมัน เหมาะมากๆสำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนัก ต้องการลดไขมัน เมนูนี้ไม่มีไขมันอย่างแน่นอนอีกทั้งยังอร่อย หารับประทานง่ายอีกต่างหาก 2.ไข่ลวกกับขนมปัง อาหารง่ายๆ สามารถทำเองได้ไม่ยาก คุณค่าสารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีนจากไข่ วิตามิน จากผักสลัด และคาร์โบไฮเดรตจากขนมปัง ให้พลังงานและคุณค่าที่ครบถ้วนไร้กังวลเรื่องไขมันที่จะทำให้อ้วนได้เลย 3.สลัดอกไก่ ไข่ต้ม ใครที่ลดน้ำหนักอยู่แนะนำเมนูนี้เลยสำหรับใครที่ต้องการกินคลีน อกไก่ไร้ไขมัน พร้อมสารอาหารวิตมินต่างๆจากผัก โปรตีนจากไข่ เรียกได้ว่าครบถ้วนในหนึ่งเดียว 4.แซนวิชอกไก่อโวคาโด้ เมนูอาหารคลีนที่ได้คุณค่าสารอาหารครบถ้วนจากขนมปังโฮลวีท อโวคาโดผลไม้ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว มีประโยชน์ต่อร่างกายในการลดปริมาณคอเลสเตอรอล รวมทั้งช่วยเพิ่มปริมาณไขมันดีซึ่งเป็นผลดีต่อร่างกาย 5.ไข่ตุ๋นฟักทอง อุดมไปด้วยสารอาหารจากไข่ วิตามินอีของฟักทอง ครบถ้วนทางคุณค่าสารอาหาร อีกทั้งยังอร่อย วัตถุดิบยังหาง่ายด้วย อาหารที่ดีมีประโยชน์ ย่อมส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย เห็นได้ว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องไม่อร่อยเสมอไป ถ้ารู้จักเลือกวัตถุดิบ เลือกเมนูที่ดี ก็จะได้สารอาหารครบถ้วนด้วย อร่อย หุ่นก็กลับมาเฟิร์ม กระชับ  แต่ถ้าหากต้องการผลลัพธ์ที่เห็นผลไว ปัจจุบันก็ได้มีนวัตกรรมความงามทางการแพทย์ที่หลากหลายวิธีเข้ามาช่วยในการลดไขมันเฉพาะส่วนอย่างเช่น Carboxy และ Vaser Liposuction และ COOLSCULPTING เป็นต้น...

ปัญหาเซลลูไลท์ ไม่ได้พบเฉพาะแค่คนอ้วน แต่พบได้ในทุกคน จะผอม จะอวบหรืออ้วน ก็ล้วนมีเซลลูไลท์ได้เช่นกัน ซึ่งส่วนมากเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะผู้ชายจะมีไขมันน้อยกว่าผู้หญิงซึ่งการเกิดเซลลูไลท์นั้นมาจากปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เราจะพาไปดูกันว่ามีอะไรกันบ้างและจะขจัดเบื้องต้นได้อย่างไร สาเหตุการเกิดเซลลูไลท์             เซลลูไลท์เกิดจากการสะสมของเสียในเนื้อเยื่อของร่างกายหรือเซลล์ไขมันมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก โดยตอนแรกจะเป็นไขมันบางๆก่อนตรงบริเวณที่มีปัญหาการไหลเวียนของเลือดตามต้นขา แขน บั้นท้าย เป็นต้น เมื่อสะสมไปนานๆ ไขมันจะสะสมกันเป็นก้อน มีน้ำ ไขมันและของเสียอยู่รวมกันมากขึ้น ขยายแพร่กระจายไปทั่วบริเวณกว้าง เกิดได้หลายสาเหตุได้แก่ 1.การกินอาหารที่มีแป้ง ไขมัน หรือของหวานและน้ำตาลเข้าไป เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่หมดจึงเกิดการสะสมกลายเป็นเซลลูไลท์ เป็นชั้นไขมันที่หนาขึ้นและอ้วนขึ้นในที่สุด 2.ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายควรทำอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้มีการเผาผลาญ สามารถกำจัดไขมันออกไปได้หากขาดการออกกำลังกายจะทำให้ระบบต่างๆทำงานได้ไม่ดี การกำจัดของเสียก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นปัญหาสุขภาพไป 3.การอดอาหาร ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและทำการเก็บไขมันสะสมเอาไว้ใช้เป็นพลังงานสำรอง จนทำให้เกิดการสะสมไขมัน กลายเป็นเซลลูไลท์ในที่สุด 4.ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำจะช่วยชำระล้างสารพิษออกไป และช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ให้ทำงานได้เป็นปกติ ช่วยระบบขับถ่ายของเสียเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ระบบกำจัดของเสียทำงานได้ไม่ดี และเซลล์ตัวจะถูกทำลายจากแอลกอฮอล์ จนทำให้ขจัดสารพิษได้ไม่ดี วิธีลดเซลลูไลท์ได้ด้วยตัวเอง 1.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ระบบร่างกายคืนสมดุลสามารถทำงานสัมพันธ์กันได้อย่างปกติ ช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติอีกด้วย 2.ควบคุมอาหาร สิ่งที่สำคัญคือการรักประทานอาหารที่มีประโยชน์ เมื่อร่างกายรับสิ่งใดเข้าไปก็จะได้รับผลกระทบตามมา ดังนั้นจึงควรลด ละ เลิก อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล อาหารรสจัดต่างๆ เพราะจะทำให้ร่างกายสะสมไขมันเพิ่มเรื่อยๆ จนกลายเป็นเซลลูไลท์และแก้ไขได้ยาก 3.กินผักและผลไม้ การรับประทานผักและผลไม้จะช่วยให้เซลลูไลท์ลดลงและป้องกันการเกิดเซลลูไลท์ใหม่ได้ดีอีกด้วย 4.นวดน้ำมัน การใช้น้ำมันนวดไปยังบริเวณที่มีเซลลูไลท์ จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนต่างๆทำงานได้มากขึ้นและยังไปกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน...

การออกกำลังกายสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่กับเซลลูไลท์เป็นสิ่งที่กำจัดได้ยากทางธรรมชาติ ไม่ว่าใครก็สามารถมีได้ทั้ง คนอ้วน คนผอม ปัจจุบันจึงได้มีนวัตกรรมใหม่ๆที่เข้ามาช่วยกำจัดเซลลูไลท์เฉพาะส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงจุด ปลอดภัย และได้ผลถาวร แล้วมีนวัตกรรมไหนบ้างที่ตอบโจทย์ในจุดนี้ เราจะพาไปดูกัน 1.VelaBody II นวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับเจ้าตัวเซลลูไลท์ที่อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายเรา ขจัดปัญหาผิวไม่เรียบเนียน หย่อนคล้อย มีประสิทธิภาพในการนวดด้วยระบบสุญญากาศ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก พลังงานคลื่นวิทยุ พลังงานแสง อินฟาเรด ร่วมกับการทำงานระบบสุญากาศ ทำให้ไม่เจ็บขณะทำการรักษา สลายเซลลูไลท์ได้ดีเห็นผลทันทีที่ทำ 2.Vaser smooth ด้วยพลังงานอัลตราโซนิค ทำลายไขมันส่วนเกินที่จับกันเป็นก้อนให้แตกตัวออก ทำลายโครงสร้างที่เป็นต้นเหตุทำให้ไขมันแทรกตัวตามผิวจนเกิดเป็นเซลลูไลท์ ให้สลายตัวออกไปและทำการดูดออกจากร่างกาย สามารถทำให้พังผืดของเซลลูไลท์สลายไป ได้ผิวที่เรียบเนียนเสมอกัน สลายไขมันได้ตรงจุด ไม่กระทบหรือไปรบกวนเนื้อเยื่อโดยรอบ ที่สำคัญคือปลอดภัยและได้มาตรฐาน 3.Radio Frequency นวัตกรรมที่ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ ด้วยวิธีการปล่อยคลื่นวิทยุ ในช่วงความถี่ 0.3-0.5 MHz เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการหดตัวของกล้ามเนื้อทำให้ผิวหนังยกกระชับมากขึ้นทันที และมีหุ่นที่เพรียว สวยได้อย่างง่ายๆอีกด้วย 4.Vela Shape คือเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานความร้อนจากแสงอินฟาเรด คลื่นวิทยุร่วมกับระบบสุญญากาศและการนวด โดยความร้อนจากแสงอินฟาเรดและคลื่นวิทยุจะเข้าไปกำจัดไขมันส่วนเกินใต้ผิว เซลล์ไขมันให้ลดขนาดลง อีกทั้งยังเข้าไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ไขมันไหลเวียนไปตามระบบได้ดี ผิวจึงเรียบเนียน กระชับขึ้นอย่างชัดเจน นวัตกรรมการลดเซลลูไลท์ได้มีการพัฒนาไปเรื่อยๆจนมีประสิทธิภาพที่ดี ปลอดภัย...

การมีหุ่นที่ผอมเพรียว ไร้ไขมัน เป็นสิ่งที่สาวๆหลายๆคนฝันเอาไว้ เพราะถ้ามีหุ่นที่ดี จะสวมใส่เสื้อผ้าก็สวย สะดวกสบาย มีความมั่นใจ มีบุคลิกภาพที่ดีอีกต่างหากแต่บางทีการออกกำลังกายก็ได้ผลช้า ไขมันบางส่วนก็กำจัดยาก จึงหันไปเลือกทางเลือกในการดูดไขมันแทนเพราะเห็นผลรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Vaser Liposuction นวัตกรรมเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย Vaser Liposuction คือเทคโนโลยีในการสลายไขมันโดยเฉพาะ ทำให้เซลล์ไขมันสลายได้โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อใกล้เคียงเป็นอันตราย ไม่มีรอยบวมช้ำหลังการผ่าตัดเหมือนเทคนิคการดูดไขมันแบบอื่นๆ โดยมีหลักการในการทำงานที่ใช้พลังงานคลื่นเสียง ในระดับความถ่ 36 kHz จะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้ก้อนไขมันแตกกลายเป็นของเหลวจากนั้นจะดูดออกก่อนทำการรักษา โดยมีขั้นตอนการรักษาดังนี้ ขั้นตอนการทำ Vaser Liposuction 1.แพทย์จะเติมสารละลายน้ำเกลือแบบพิเศษเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมันออก การฉีดน้ำเกลือเข้าไปจะช่วยให้เกิดอาการชาและส่งผลให้หลอดเลือดบริเวณนั้นเกิดการหดตัว ลดการเสียเลือดและอาการบวมช้ำหลังการรักษา 2.ใช้พลังงานคลื่นเสียงของระบบ Vaser Vaser มีหัวขนาดเล็กจะปล่อยคลื่นเสียงออกมาแล้วเข้าไปยังบริเวณที่มีไขมัน จับกับเซลล์ไขมันเพื่อทำการสลายออกไปให้เกิดการแตกตัวกลายเป็นของเหลว 3.ดูดไขมันที่เป็นของเหลวออก เมื่อไขมันสลายกลายเป็นของเหลวแล้วแพทย์จะทำการดูดไขมันออกด้วย เครื่องมือ VentX Cannulae โดยจะดูดออกอย่างเบามือและทำให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆถูกกระทบกระเทือนน้อยที่สุด แม้ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดี มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง เห็นผลได้รวดเร็วแต่ก็ต้องพึงคำนึงถึงข้อควรระมัดระวังถึงวิธีต่างๆไว้ด้วย ศึกษาข้อมูลให้ดี ให้ละเอียดเพื่อที่ผลลัพธ์จะได้ออกมาดีและยังได้เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองอีกด้วย แต่ทั้งนี้ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเองด้วยเพราะต่อให้ดูดไขมันไปจนหมดตัว แต่ถ้ายังกินแบบตามใจปาก ไขมันก็ไม่มีวันหายไปไหน ดูแลตัวเองอย่างใส่ใจจึงจะดีที่สุด   อ้างอิง cmlipocenter

การดูดไขมันด้วย Vaser liposuction คือเทคโนโลยีในการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย หรือบริเวณที่ไม่ต้องการ โดยใช้พลังงานเสียงทำให้ไขมันบริเวณนั้นแตกตัวแล้วสลายออกไปเป็นของเหลวจากนั้นแพทย์จะทำการดูดไขมันออกจากร่างกาย โดยที่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆจะไม่เป็นอันตราย แต่ถึงเครื่องมือจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน ก็มักมีข้อจำกัดกันทั้งนั้น จึงควรรู้ถึงข้อควรระวังต่างๆเพื่อระมัดระวังก่อนทำการรักษา เนื่องจากการดูดไขมันใต้ผิวหนังเป็นการนำไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย เนื้อเยื่อบริเวณนั้นอาจถูกกระทบกระเทือนบ้างเล็กน้อย แต่จะไม่เป็นอันตรายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนที่จะทำการรักษา ดังนี้ การดูดไขมันเป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่งหลังการรักษาจึงอาจมีรอยแผลบ้าง จึงไม่ควรให้แผลโดนน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ให้ทำความสะอาดแผลโดยการเช็ดตัว เมื่อแผลแห้งแล้วจึงจะสามารถอาบน้ำได้ปกติ โดยใช้พลาสเตอร์ปิดแผลเพื่อเลี่ยงการโดนน้ำ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงเพราะอาจจะเกิดรอยดำบริเวณที่ทำ งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด ของหมักดอง เพราะอาจจะไปกระทบกับระบบการไหลเวียนของเลือดทำให้แผลหายช้า ไม่ควรออกกำลังกายในช่วงเวลานั้นหรือยกของหนักเพราะจะทำให้แผลปริและเป็นอันตรายได้ ใช้ผ้าพันแผล สวมชุดกระชับสัดส่วนตามที่แพทย์แนะนำ เมื่อรู้ถึงข้อควรระวังแล้วสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษนั่นคือการรับประทานอาหาร เพราะพฤติกรรมการกินย่อมส่งผลต่อร่างกายไม่ว่าส่วนใดๆ ยิ่งถ้าหากดูดไขมันมา จึงไม่ควรที่จะรับประทานอาหารแบบตามใจปาก หรือทานอาหารที่มีไขมันสูง ถึงแม้จะดูดไขมันออกไปแล้ว แต่ถ้าหากรับประทานอาหารที่ไขมันเข้าไปก็จะเข้าไปรวมกันบริเวณอื่นๆ อย่างเช่นตามแขน ขาอยู่ดี ทำให้ต้องรักษาวนไปไม่สิ้นสุด ดังนั้นควรปรับพฤติกรรมการกิน เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีใยอาหารสูง ลดระดับน้ำตาลในร่างกาย โดยการเลือกรับประทานผักผลไม้ ข้าวโอ๊ตที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุสารอาหารต่างๆเหมาะกับการควบคุมน้ำหนักเพียงเท่านี้ก็จะมีหุ่นที่ผอมเพรียวและสุขภาพดีไปพร้อมๆกันด้วย   อ้างอิง pr2you honestdocs

ด้วยมลภาวะสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน แดด พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน การพักผ่อนไม่เพียงพอ วิตกกังวลจนทำให้เกิดความเครียดที่เป็นต้นเหตุทำให้ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดใส ผิวพรรณหมองคล้ำ ริ้วรอยถามหาก่อนวัยอันควร จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูร่างกายของเราเพื่อให้กลไกการทำงานของเรากลับมาปกติ สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณสดใสจากภายในสู่ภายนอกด้วยตัวช่วย Nac C วิตามินเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ Nac C คือวิตามินที่ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง มีจุดเด่นคือ ช่วยบำรุงและปกป้องเซลล์ตับจากการถูกทำลายจากสารพิษ และสารเคมีชนิดต่างๆ สามารถรักษาแผลหลังผ่าตัดได้ดี หรือแผลที่เกิดจากรอยไหม้ ช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไธโอนให้กับร่างกายได้ดีกว่าการรับประทานและเห็นผลได้เร็ว ไม่ต้องรอร่างกายดูดซึมไปใช้ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เม็ดสีลดลง ช่วยปรับให้ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสีต่างๆ จุดด่างดำดูจางลง แล้ว Nac C เหมาะกับใครบ้าง เห็นได้ว่า การฉีดวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ผิวมีประโยชน์มากมาย เหมาะกับทุกคนที่ต้องการจะฟื้นบำรุงร่างกายให้กลับมาแข็งแรง ป่วยบ่อยรู้สึกว่ามีภูมิคุ้มกันทำงานลดลง พักผ่อนไม่เพียงพอหรือเพียงพอแล้วแต่ก็รู้สึกวายังไม่มากพอ ต้องการให้ใบหน้าหมองคล้ำกลับมามีผิวที่สวยสดใสอีกครั้ง ซึ่ง Nac C เป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูร่างกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เมื่อเข้าสุ่ยุคโลกาภิวัตน์ อะไรต่างๆก็ต้องรวดเร็วไปทั้งหมด รวมถึงสุขภาพของตัวเอง การอยากมีผิวที่กระจ่างใสในปัจจุบันจึงเป็นเรื่องที่ใครก็อยากฟื้นผิวขาวให้เร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตามพึงต้องรู้ไว้ว่าการมีผิวจากภายในสู่ภายนอกต้องเริ่มจากการดูแลตัวเองเป็นหลัก ถึงฟื้นฟูผิวได้รวดเร็วก็จริงแต่ก็อยู่ได้ไม่นานเท่าการฟื้นฟูแบบค่อยเป็นค่อยไปและสม่ำเสมอ ผลลัพธ์จึงจะอยู่ได้อย่างยืนยาวและถาวร พักผ่อนให้เพียงพอ...

NAC ย่อมาจากคำว่า N-acetyl- cysteine แหล่งของกลูต้าไธโอนชั้นเยี่ยม ที่ไม่สามารถพบตามธรรมชาติในอาหาร ต้องกินจากวิตามินเสริมเข้าไปเท่านั้น มีคุณประโยชน์มากมายกับร่างกาย ช่วยกระตุ้นให้ตับสร้างกลูต้าไธโอน ช่วยปกป้องเซลล์กับการเกิดความเครียดซึ่งเป็นบ่อเกิดในการทำลายสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เราจะพาไปรู้จักกับ NAC C ให้มากขึ้นว่าให้ผลจริงหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไรแล้วมีส่วนช่วยในการทำให้ผิวขาวหรือเปล่า ประโยชน์ของ NAC C กระตุ้นให้ตับสร้างกลูต้าไธโอน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเกี่ยงข้องกับกระบวนการการล้างพิษ ป้องกันการเกิดความเครียด ที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคต่างๆ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง บรรเทาโรคปอดอักเสบ ลดอาการซึมเศร้า ลดความเสี่ยงในการเกิดไตวาย ลดการเกิดการออกซิเดชั่นในเซลล์ประสาท ซึ่งเป็นตัวเร่งทำให้สมองเสื่อม แก่ไว กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับประโยชน์ของ NAC C ต่อผิวพรรณ อาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงเพื่อทำให้ผิวขาวแต่เป็นตัวช่วยเพื่อทำให้ผิวขาวใสไม่ได้ทำให้เปลี่ยนสีผิวเดิมไปเป็นอีกสีหนึ่งอย่างสิ้นเชิง แต่เจ้าตัว NAC-C จะเข้าไปจับกับเซลล์เม็ดสี ควบคุมการผลิตเมลานินในร่างกายทำให้ผิวดูขาวใสขึ้น เปล่งปลั่งขึ้นมากกว่าที่เคย โดยปกติการที่ร่างกายจะรับวิตามินตัวนี้ได้จะต้องรับประทานวิตามินเสริมเข้าไปเพราะไม่สามารถที่จะหาได้ตามธรรมชาติในอาหารปกติที่เรารับประทาน นวัตกรรมความงามจึงได้มีการนำตัว NAC C นั้นมาฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรงทำให้ร่างกายรับวิตามินเข้มข้นได้ทันที เห็นผลรวดเร็วทันใจ ดีกว่าการรับประทานเข้าไปเพราะร่างกายของเรานั้นดูดซึมได้ช้า ทำให้เห็นผลได้ช้าตามมา การบำรุงร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่ดี การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อให้สุขภาพเราแข็งแรงไม่เจ็บป่วยย่อมดีกว่าเสมอ เพราะการไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐ อย่าลืมที่จะดูแลรักษาสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย...

ใบหน้าขาวกระจ่างใสไร้รอยสิว ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นที่น่าอิจฉาถ้าหากใครที่ไม่มีปัญหาผิวพรรณ ไม่ต้องยุ่งยากในการดูแลผิว แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ อาจเกิดจากมลภาวะภายนอก ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวพรรณไม่กระจ่างใสแบบที่เคย วันนี้เราจึงมีวิธีดูแลผิวหน้าให้กลับมาขาวใส แบบธรรมชาติ มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย 1.ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณที่ส่วนประกอบไวท์เทนนิ่ง อันดับแรกนั่นคือการใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิว ที่ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายสำหรับบำรุงที่มีสารไวท์เทนนิ่งในการที่จะฟื้นฟูผิวสาวๆให้กลับมาสวยใส เป็นตัวช่วยที่เร่งการฟื้นฟูผิวอีกทางหนึ่งสำหรับใครที่มีปัญหาผิวพรรณ ก็สามารถหมดกังวลได้เลย เพราะผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายและมีสรรพคุณที่ช่วยได้จริงแต่ต้องระมัดระระวงการแพ้ด้วย จึงควรเลือกให้ดีๆ 2.มาส์กหน้า การมาส์กหน้าเป็นการพักผ่อนให้ผิวที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันให้กลับมาฟื้นคืนความใสได้ เสมือนเป็นการเติมสารอาหารให้ผิว จะเลือกใช้เป็นแผ่นมาส์กหน้าที่วางขายได้ทั่วไปหรือจะมาส์กหน้าจากธรรมชาติก็ได้เช่นกัน อย่าง มะขามเปียก แตงกวา น้ำผึ้ง เป็นต้น เพราะล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณทั้งนั้น 3.ทำความสะอาดผิว การใส่ใจล้างหน้าเป็นประจำเช้าเย็น เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากเพราะสิ่งสกปรกจะเข้าไปอุดตันทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ดูไม่สดใส เพราะฉะนั้นจึงควรล้างหน้าเป็นประจำเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกไปให้หมด 4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จัดว่าเป็นยาดีอันดับต้นๆ เพราะร่างกายจะสามารถฟื้นฟูได้ขณะที่เราหลับ อวัยวะในร่างกายต่างๆจะทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวของเราสวยใส อีกทั้งยังสดชื่นได้ตลอดวันด้วย 5.ดื่มน้ำสะอาดมากๆ น้ำเปล่าเป็นตัวช่วยในการบำรุงผิวอย่างดีชนิดหนึ่งเพราะจะไปช่วยชำระล้างสารพิษในร่างกายออกส่งผลให้ผิวสวยใส และยังช่วยชะลอวัยอีกต่างหาก สิ่งสำคัญของการมีผิวที่สวยใสนั่นคือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง หากเราเต็มไปด้วยความเครียด ทำแต่งาน ละเลยการดูแลตัวเอง ร่างกายเราก็จะทรุดโทรมตามกาลเวลา ไม่เพียงแค่ผิวเสียเท่านั้น ดังนั้นลดความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายก็จะฟื้นฟูตัวเองได้ อาจจะช้าหน่อย แต่ได้ผลอย่างแน่นอน   อ้างอิง sanook