ปรับรูปหน้าเรียว ยกกระชับหน้า

การร้อยไหมทำหน้าเรียวนั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทยของเรา แต่การร้อยไหมนั้นจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำการรักษาให้ วันนี้เราจึงมาแนะนำคลินิกร้อยไหมที่ใครไปทำก็ต้องยกนิ้วชื่นชมมาฝากสาวๆทุกคนที่สนใจทำร้อยไหมกัน จะมีคลินิกหรือโรงพยาบาลไหนบ้างตามมาดูกันเลย 1. Tharatorn Medical Clinic ธราธร เมดิคอล คลินิก เป็นคลินิกความงามชั้นนำของเมืองไทย ย่านลาดพร้าว (ริมถนนใหญ่ระหว่างซอยลาดพร้าว 12-14 เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT) มีความโดดเด่นทั้งงานปรับรูปหน้าและงานศัลยกรรม ทีมอาจารย์ธราธร ผู้เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหม มีประสบการณ์ด้านการร้อยไหมยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดึงหน้าเรียว ยกแก้มห้อย มามากกว่า 1,000...

เชื่อว่าสาวๆหลายคนฝันอยากจะมีใบหน้าที่เรียวสวยเป็นรูปตัววีอย่างแน่นอน เพราะว่าหากเรามีหน้าที่เรียวสวยไม่ว่าเราจะถ่ายรูปมุมไหนเราก็จะดูสวยไปหมดนั่นเอง ไม่ว่าคนจะมองเรามามุมไหนเราก็จะดูดีทุกมุมด้วย ดังนั้นหากใครอยากมีใบหน้าที่เรียวเป็น V Shape สนใจอยากจะฉีดโบท็อกซ์กับร้อยไหมก็สามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่เด่นในสองเรื่องนี้ได้ตามนี้เลย 1. Doctor Grace clinic สำหรับ Doctor Grace clinic นั้นเป็นคลินิกเสริมความงามที่สาวๆส่วนใหญ่ไว้วางใจ ดำเนินงานโดยแพทย์หญิงเสาวภาคย์ พงศ์ศศิธร (หมอเกรซ) ที่มีดีกรีแพทย์ผิวหนังจบมาจากประเทศอังกฤษ พ่วงด้วยดีกรีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงามจากประเทศอเมริกาด้วยประสบการณ์ตรงมากว่า 1,000 เคส เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด และสำหรับการร้อยไหมใครที่ยังกลัวกับการร้อยไหมแบบเดิมๆ ที่ต้องทนกับความเจ็บและการบวมช้ำ...

สำหรับการทำร้อยไหมและฉีดโบท็อกซ์นั้นอาจจะดูเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับใครๆหลายคน แต่ถ้าหากเราทำความเข้าใจและรู้ว่าประโยชน์ของการทำสองสิ่งนี้นั้นมีอะไรบ้างก็อาจทำให้เราเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดก็เป็นไปได้ วันนี้เราจึงมานำเสนอข้อดีของการร้อยไหมและฉีดโบท็อกซ์กัน เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักการเสริมความงามสองอย่างนี้มากขึ้น ส่วนที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ คือหน้าผาก ตีนกา โบท็อกซ์จะตอบโจทย์ได้ดีมาก เจ็บน้อย ราคาไม่แพง อยู่ได้นาน และในส่วนของคนกรามใหญ่ปรับรูปหน้าเป็น V Shape ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้ หรือเราจะลองกัดฟันดูแล้วเอามือจับดูจะมีก้อนเนื้อเล็กๆปูดขึ้นมา ถ้ามีเยอะยิ่งรักษาด้วยโบท็อกซ์ได้ดี กล้ามเนื้อของการกัด บดคี้ยวอาหาร ยิ่งเคี้ยวเยอะ เคี้ยวหมากฝรั่ง เคี้ยวข้าวเหนียว มันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ใบหน้าของเราก็จะไม่เรียวได้รูป ดูเป็นเหลี่ยม...

ในการที่เราจะทำศัลกยรรมเสริมความงามนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราต้องมีการศึกษาวิธีการทำศัลยกรรมให้ดี และมีการรู้จักเลือกคุณหมอและสถานที่ที่จะใช้บริการอย่างฉลาด เพราะว่าถ้าเราอยากให้ผลลัพธ์จากการทำศัลยกรรมนั้นออกมาดี เราก็ต้องรู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรานั่นเอง 1. มีใบอนุญาตประกอบการ สถานที่ร้อยไหมที่เหมาะสมต้องมีใบอนุญาตประกอบการ จากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะได้เป็นเครื่องยืนยันว่าสถานที่ร้อยไหมนั้นๆมีคุณสมบัติตรงตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าคลินิกดังกล่าวมีความพร้อมในการให้บริการ และแสดงถึงความปลอดภัยเมื่อคุณเข้ารับการร้อยไหม ซึ่งการจะตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ง่ายๆแค่นำชื่อคลินิกและเลขใบอนุญาต 11 หลักที่เขียนอยู่ในใบอนุญาตประกอบการ มาตรวจสอบสอบที่เว็บไซต์ moph.go.th ได้ 2. แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ แพทย์ที่ทำหน้าที่ร้อยไหมต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากสภาวิชาชีพของแพทย์หรือ “แพทยสภา” ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาทุกคนต้องผ่านกระบวนการ การประเมินความรู้ในเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ขั้นพื้นฐาน การประเมินความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการแพทย์คลินิก...

ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์จะเป็นการเสริมความงามทางการแพทย์ที่ง่ายและไม่ยุ่งยากแถมใช้เวลาในการทำไม่นาน แต่ผลลัพธ์ของการรักษาไม่คงอยู่ตลอดไปแบบถาวร การฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์จึงต้องมีการรักษาอยู่ตลอดช่วงเวลาเพื่อให้ผลลัพธ์ของความสวยงามนั้นอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะแยกออกเป็นประเภทดังนี้ ได้แก่ HA Filler (ไฮยาลูโรนิกแอซิด) จะมีลักษณะคงตัว ใช้ในการฉีดเติมเต็มในส่วนที่ขยับย่อยๆ เช่น ร่องแก้ม ปาก อยู่ได้ 4-6 เดือน แต่ถ้าเป็นการฉีดทดแทนไขมันที่เสื่อมใต้ผิว เติมเต็มคางหรือจมูก จะอยู่ได้ 1-2 ปี อีกประเภทคือ Filler แบบ Skin...

ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้วเช่นเดียวกันกับการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ที่เป็นการเสริมความงามทางการแพทย์ที่มีวิธีการปฏิบัติที่ง่ายและสะดวก การฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์จึงเป็นที่นิยมมากในวงการการศัลยกรรม และแน่นอนว่าโอกาสของการเกิดผลข้างเคียงนั้นย่อมเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเรารู้ว่าผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าเราต้องสามารถเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ในการฉีดฟิลเลอร์นั้น ตัวสารจะส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวที่มีอยู่เดิม จึงอาจทำให้เกิดการเสื่อมสลายไปบ้างและหลังการฉีดฟิลเลอร์ อาจจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น เกิดผื่นแดง จุดแดง หรือจ้ำเลือดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จากรอยเข็มที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง หรือเกิดรอยนูนเมื่อฉีดปริมาณมากเกินไป หรือฉีดตำแหน่งที่ตื้นเกินไป หรือปัญหาการไหลย้ายของฟิลเลอร์ และถ้าฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป อาจทำให้เนื้อเยื่ออักเสบและติดเชื้อได้ ในบางรายอาจส่งผลร้ายแรงเป็นอย่างมาก จนอาจถึงขั้นทำให้เส้นเลือดตีบและเสียชีวิตได้อีกด้วย สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้น หลังการฉีดโบท็อกซ์ซ์อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ เช่น หนังตาบนตก...

เชื่อว่าผู้หญิงและสาวๆหลายคนต้องรู้จักกับการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์แน่ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถฉีดสารเหล่านี้ได้ตรงไหนบนบริเวณใบหน้าได้บ้าง หากใครอยากรู้หรือสนใจที่จะฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ก็สามารถตามมาดูกันได้ว่าโบท็อกซ์และฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดได้ตรงไหนและช่วยในด้านการเสริมความงามอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยดีกว่า สำหรับฟิลเลอร์นั้นคือสารที่ใช้สำหรับแก้ปัญหาผิวต่างๆ โดยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มในส่วนที่เป็นริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึงมีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยเป็นจะดูตื้นและนูนขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาดูอวบอิ่มและทำให้แลดูอ่อนเยาว์วัยกว่าเดิมนั่นเอง โดยบริเวณบนใบหน้าที่คุณหมอสามารถฉีดโบท็อกซ์ให้ได้นั้นก็มีดังนี้ - บริเวณหน้าผาก ลดรอยย่น - บริเวณร่องแก้ม ลดร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก - บริเวณริมฝีปาก ให้ปากอวบอิ่ม ปรับทรงริมฝีปาก - บริเวณใต้ตา ลดถุงใต้ตา - บริเวณจมูก เสริมจมูกโด่ง - บริเวณขมับ...

การทำศัลยกรรมในสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเราก็สามารถมีใบหน้าที่สวยงามตรงตามความต้องการของเราได้เหมือนกัน หากใครอยากมีใบหน้าที่ดูอ่อนวัยและเรียวกระชับ เราก็สามารถทำการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ร่วมกันเพื่อปรับโครงหน้าของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าการฉีดสองสิ่งนี้จึงมอบความเยาวว์วัยให้กับเราด้วย แต่หลายคนคงอาจจะยังไม่รู้จักโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ดี เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าโบท็อกซ์และฟิลเลอร์กันว่ามันคือสารอะไร และมันช่วยอะไรเราได้บ้าง ใครที่อยากรู้แล้วก็ตามเรามาได้เลย สารตัวแรกที่เราจะแนะนำก็คือ ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มที่มีอยู่ 2 ชนิด คือชนิดฟิลเลอร์แบบถาวร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อพาราฟิน และอีกชนิดคือแบบไม่ถาวร หรือไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) ซึ่งเป็นสารคงความชุ่มชื้นของผิวในร่างกายตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ใช้ฉีดเข้าไป เพื่อเติมเต็มผิวบริเวณร่องลึกให้ตื้นขึ้นมา แต่จะใช้เติมเต็มรอยที่เราเห็นถึงแม้จะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า อย่างเช่น...

เชื่อว่าหลายๆคนที่สนใจด้านการเสริมความงามต่างๆต้องรู้จักการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์กันเป็นอย่างดีแน่นอน เราเลยจึงอยากนำวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์มาฝากทุกคนที่สนใจการฉีดสารเหล่านี้รวมถึงคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ด้วย เพื่อช่วยการประกอบการตัดสินใจและยังช่วยให้เรารู้วิธีการดูแลตัวเองหลังการรักษาอีกด้วย สำหรับการดูแลตัวเองหลังการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์นั้นสามารถแบ่งออกเป็นช่วงระยะเวลาต่างๆ ได้ดังนี้ 1. ใน 2-3 ชั่วโมงหลังการรักษา เราควรพยายามใช้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ทำงาน เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว ยักคิ้ว ทุก 15 นาที ติดต่อกันนาน 1 ชั่วโมง หรือถ้าหากเราฉีดบริเวณกรามหรือคาง คุณหมออาจแนะนำให้เราเคี้ยวหมากด้วย การทำอย่างนี้ก็เพื่อให้สารโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปกระจายตัวได้ดีขึ้น 2. หลังจาก 4 ชั่วโมงจากการรักษา...

เดี๋ยวนี้การทำศัลยกรรมเสริมความงามนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะการพัฒนาของวงการเสริมความงามที่มีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้มีวิธีการทำศัลยกรรมใหม่ๆออกมาให้เราได้รู้จักและใช้บริการกันอยู่ตลอด เช่นเดียวกันกับวิธีการอัลเทอร่า (Ulthera) ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับสาวๆหลายคนที่อยากมีใบหน้าเรียวสวยและมีผิวหน้าที่มีความกระชับ ดูอ่อนวัย และไม่หย่อนคล้อย วิธีการเสริมความงามนี้จึงได้รับความนิยมค่อนข้างเยอะพอสมควร อัลเทอร่าเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้มีความเรียวสวยและดูชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับหรือหางคิ้วตก ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูมีความอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นดีขึ้นจากเดิม รวมถึงผู้ที่มีรูขุมขนกว้างไม่เรียบเนียนนุ่มลื่น และต้องการลดเหนียงหรือคางสองชั้น หรือแม้แต่การแก้ปัญหาสำหรับคนที่ผิวหนังบริเวณลำคอมีความเหี่ยวย่น พลังงานเสียงอัลตราซาวด์ของวิธีการเสริมความงามอัลเทอร่าที่ส่งไปยังชั้นผิวหนังที่ต้องการรักษาจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน โดยเน้นกระตุ้นที่เซลล์ไฟโบรลาสต์ของชั้นกล้ามเนื้อให้มีการหดตัวเหมือนกับการเย็บเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นหลักการแบบเดียวกับการดึงหน้าด้วยวิธีการผ่าตัดนั่นเอง ผิวหน้าของเราจะค่อยๆปรับตัว มีการยกกระชับและตึงขึ้น พร้อมกับผิวที่ค่อยๆ เรียบเนียนขึ้นจนดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลาทำประมาณ 30 – 60...